วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ฟองน้ำเพื่อสิ่งแวดล้อม : สามคุณลักษณะในหนึ่งเดียว

                    ทีมนักเคมีจากมหาวิทยาลัย Northwestern ได้ออกแบบวัสดุชนิดใหม่ที่มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ มีสีดำ เปราะ และผ่านการทำให้แห้งเยือกแข็ง (freeze-dried) (เช่นเดียวกับไอศกรีมที่นักบินอวกาศกิน) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม วัสดุชนิดใหม่นี้สามารถกำจัดสารปรอทออกจากแหล่งน้ำเสียได้ แยกก๊าซไฮโดรเจนออกจากก๊าซชนิดอื่นได้อย่างง่ายดาย และยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในการกำจัดกำมะถันออกจากน้ำมันดิบ
                    การกำจัดกำมะถันด้วยไฮโดรเจน (hydrodesulfurization หรือ HDS) แม้จะเป็นคำที่ค่อนข้างยาว แต่มีการใช้กระบวนการนี้อย่างกว้างขวางในการกำจัดกำมะถันจากก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากการกลั่นปิโตรเลียม เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน หากปราศจากขั้นตอนดังกล่าวแล้วกำมะถันก็จะถูกเผาไหม้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนกรด (acid rain) ตามมาได้
นักวิทยาศาสตร์พยายามพัฒนาวิธีการกำจัดกำมะถันด้วยไฮโดรเจนมาตลอด แต่ไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จ กระทั่งนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัย Northwestern ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Western Washington และพบว่า แม้วัสดุที่พวกเขาพัฒนาขึ้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า แต่จริงๆ แล้วก็ทำมาจากวัสดุประเภทเดียวกันนั่นเอง
                     วัสดุโคบอลต์-โมลิบดีนัม-กำมะถันจัดเป็นสารกลุ่มใหม่ประเภทหนึ่งของแคลโคเจล (chalcogel) ซึ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้โดยมหาวิทยาลัย Northwestern แต่แคลโคเจลชนิดใหม่นี้ทำมาจากธาตุที่มีอยู่ทั่วไป มีความเสถียรเมื่อสัมผัสกับอากาศ น้ำ และสามารถใช้ในรูปแบบผงได้
    สำหรับรายละเอียดและสมบัติของแคลโคเจลชนิดโคบอลต์-โมลิบดีนัม-กำมะถันจะถูกเผยแพร่ออนไลน์ในวันที่ 17 พฤษภาคม โดยวารสาร Nature Chemistry และนี่เป็นครั้งแรกที่รายงานถึงแคลโคเจล ซึ่งใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา และตัวแยกก๊าซ
                     เมอคูรี จี คานาตซิดิส (Mercouri G. Kanatzidis) ผู้เขียนบทความวิชาการอาวุโสกล่าวว่า ผมทึ่งกับประสิทธิภาพของตัวเร่งปฏิกิริยาของเรามาก เมื่อนึกถึงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาความพยายามที่จะหาวิธีพัฒนาการกำจัดกำมะถันด้วยไฮโดรเจนนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ตามหลักการแล้วตัวเร่งปฏิกิริยาของเราสามารถกำจัดกำมะถันได้มากถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดเดิม ในขณะนี้พวกเรากำลังศึกษาถึงวิธีการทำงานของตัวเร่งปฏิกิริยาในสภาวะที่เป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น
                     คานาตซิดิส, ชาลส์ อี (Charles E). และเอมมา เอช มอร์ริสัน (Emma H. Morrison) ศาสตราจารย์ทางด้านเคมีแห่ง Weinberg College of Arts and Sciences และ ซานทานู แบก (Santanu Bag) นักศึกษาปริญญาเอก ได้พัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยวิธีที่แตกต่างจากวิธีที่ใช้ในการผลิตตัวเร่งปฏิกิริยาตัวเดิม
                     วัสดุที่มหาวิทยาลัย Northwestern พัฒนาขึ้นมีลักษณะเป็นเจลที่ทำจากโคบอลต์ นิกเกิล โมลิบดีนับ และกำมะถัน ซึ่งต่อมานำไปทำแห้งเยือกแข็ง ทำให้ได้วัสดุที่มีลักษณะคล้ายฟองน้ำซึ่งมีพื้นที่ผิวสูง (1 ลูกบาศก์เซนติเมตรมีพื้นที่ผิวประมาณ 10,000 ตารางฟุต หรือประมาณครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล) ด้วยความที่มีพื้นผิวสูง และมีเสถียรภาพภายใต้สภาวะของตัวเร่งปฏิกิริยาจึงทำให้โคบอลต์-โมลิบดีนัม-กำมะถันมีประสิทธิภาพสูง
                     นักวิจัยยังได้แสดงให้ดูว่าแคลโคเจลชนิดใหม่สามารถดูดซับโลหะหนักที่เป็นพิษออกจากน้ำเสียอย่างที่วัสดุอื่นไม่สามารถทำได้ แคลโคเจลสามารถกำจัดสารปรอทที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำในระดับหลายพีพีเอ็ม (ppm, parts per million)ออกได้เกือบร้อยละ 99 เพราะสารปรอทชอบที่จะจับกับกำมะถัน ซึ่งในแคลโคเจลก็ประกอบด้วยกำมะถันจำนวนมาก
                     เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาคานาตซิดิส และแบก รายงานว่าแคลโคเจลสามารถกำจัดสารปรอทออกจากของเหลวได้ แต่แคลโคเจลนั้นประกอบด้วยแพลทินัมซึ่งมีราคาแพง ในขณะที่แคลโคเจลชนิดใหม่ประกอบไปด้วยธาตุที่มีราคาถูก คือใช้โคบอลต์และนิกเกิลแทนแพลทินัม โคบอลต์และนิกเกิลจะเชื่อมต่อกับอะตอมของกำมะถันของไทโอโมลิบเดตแอนไอออน เพื่อสร้างโครงข่ายพรุนแบบ 3 มิติ
                     คานาตซิดิสกล่าวว่า เราประสบความสำเร็จในการทำในสิ่งที่ยาก โดยไม่ใช้แพลทินัม แต่หันมาใช้วัสดุที่หาได้ทั่วไปเพื่อที่จะสร้างเจลแทน เราพบว่าสภาวะที่เหมาะสมที่จะได้สมบัติตามที่เราต้องการนั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนตัวทำละลายจากน้ำมาเป็นฟอร์มาไมด์ (formamide)”
                     นอกจากจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในขั้นตอนการกำจัดกำมะถันออกจากน้ำมันดิบ และฟองน้ำสำหรับดูดซับสารปรอทแล้ว แคลโคเจลยังสามารถแยกก๊าซได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าวัสดุนี้สามารถแยกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากก๊าซไฮโดรเจนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นการนำไปใช้งานที่เป็นประโยชน์ต่อการผลิตไฮโดรเจนในเชิงเศรษฐกิจ
                     กระบวนการแยกก๊าซใช้ประโยชน์จากอะตอมของกำมะถันซึ่งเป็นซอฟต์อะตอมที่อยู่บริเวณพื้นผิว อะตอมเหล่านี้ชอบที่จะเกิดอันตรกิริยากับซอฟต์โมเลกุลชนิดอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามา โดยจะทำให้โมเลกุลนั้นเคลื่อนที่ช้าลง ไฮโดรเจนซึ่งเป็นธาตุที่เล็กที่สุด จัดเป็นฮาร์ดโมเลกุลมันจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงผ่านฟองน้ำนี้ไป ในขณะที่ซอฟต์โมเลกุล เช่น คาร์บอนไดออกไซด์จะใช้เวลาในการเคลื่อนตัวช้ากว่า


แหล่งข่าวและรูปภาพ
http://www.sciencedaily.com/releases/2009/05/090517143341.htm
http://static.howstuffworks.com/gif/acid-rain-1a.jp


Environmental Objects                       พลังงานเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดิบ ถ่านหิน
                                                                ฝนกรด
                                                                สารปนเปื้อนปรอทในน้ำเสีย
                                                                ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
Environmetal data   
-   Hydrodesulfurization (HDS) เป็นมาตรฐานกระบวนการตัวเร่งปฏิกิริยา สำหรับการกำจัดของกำมะถันจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม. ในกระบวนการนี้ fractions sulfurous น้ำมันดิบที่ผสมกับไฮโดรเจนและตัวเร่งให้ ตอบสนองกับไฮโดรเจนสารประกอบกำมะถัน. โดยปกติตัวเร่งประกอบด้วยฐาน alumina impregnated with โคบอลต์และ molybdenum.
-   หลักการทางเคมีในการดูดซับสาร และการสร้างพันธะเคมี

Metadata

วัสดุโคบอลต์-โมลิบดีนัม-กำมะถัน ถูกพัฒนาให้มีลักษณะเป็นลักษณะคล้ายฟองน้ำซึ่งมีพื้นที่ผิวสูง (1 ลูกบาศก์เซนติเมตรมีพื้นที่ผิวประมาณ 10,000 ตารางฟุต หรือประมาณครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล) เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่มากขึ้น


จากบทความ ฟองน้ำสังเคราะห์นี้เป็นการพัฒนาเพื่อตอบสนองความสะดวกสบาย และเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้นจากของเดิม ซึ่งตรงกับกับเป้าหมายการพัฒนาในปัจจุบัน และยังถูกพัฒนาเพื่อใช้ได้ทั้งในงานด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจอีกด้วย

กาญจนา  บุญวิบูลวัฒน์  5415004

1 ความคิดเห็น:

  1. นับว่าเป็นความรู้ใหม่ เรามีความคิดเห็นว่า ในอนาคต ฟองน้ำสังเคราะห์แคลโคเจลนี้จะเป็นรู้จักกันในฐานะเป็นสารตัวหนึ่ง ที่สามารถแยกมลพิษออกจากสิ่งแวดล้อมได้ และอาจมีการคิดค้นประดิษฐ์และพัฒนาทำให้บุคคลทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

    ตอบลบ