A-Eye แอพพลิเคชั่นเจ๋งบนมือถือสมาร์ทโฟนฝีมือเด็ก มจธ. ทำหน้าที่เสมือนรุกขเทวดา เปิดโซเชียลเน็ตเวิร์กให้นักท่องเที่ยว แค่ถ่ายและกดแชร์ภาพเหตุร้ายในป่า ทั้งการตัดไม้ ไฟป่า น้ำป่า ก่อนเจ้าหน้าที่อุทยานแจ้งเหตุฉุกเฉินเตือนนักท่องเที่ยว ลดการสูญเสีย ช่วยสอดส่องธรรมชาติ ลดปริมาณโบว์ชัวร์เพราะทำหน้าที่เสมือนไกด์นำเที่ยวเส้นทางธรรมชาติได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ
แอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ว่านี้เป็นผลงานของ
ภัทรวุฒิ เรืองกนกมาศ ชณิดา ดีโรจนเดช จิตนันท์ มีนไชยอนันต์ และ ศุภัชญา พวงพรทิพ
4 นักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มจธ.ที่เพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย
2013 (NSC 2013) ในมหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย
ครั้งที่ 13 ประเภท Environment App Contest มาหมาดๆ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผลงานชิ้นนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า A-Eye
(Extra eyes assisting in the environmental surveillance of the national parks) เป็นระบบอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติรวมทั้งเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
โดยระบบถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของพื้นที่ป่าไม้อันมีสาเหตุมาจากการทำลายพื้นที่ป่าไม้ที่เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรธรรมชาติ
และจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอในการสอดส่องดูแลเหตุการณ์ผิดปกติต่างๆ
ได้อย่างครอบคลุม เช่น การเกิดไฟป่า การลักลอบตัดไม้ทำลายสัตว์ป่า A-Eye เป็นแอพพลิเคชั่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าไม้ระหว่างการท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติ
ผ่านการใช้งานแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน
ภัทรวุฒิ เรืองกนกมาศ นักศึกษาวิศวคอมพิวเตอร์ ชั้นปี 4 มจธ.หนึ่งในทีมผู้คิดค้น กล่าวว่า เหตุผลที่พวกเขาพัฒนาระบบดังกล่าวบนมือถือสมาร์ทโฟน
เนื่องจาก มีคนจำนวนมากนิยมใช้อีกทั้งยังสะดวกต่อการพกพา
หลังจากที่พวกเขาคิดที่จะตอบโจทย์ของสังคมเรื่องป่าไม้
ต่อมาก็คิดวิธีการช่วยในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่างๆอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ป่าไม้ลดลง
ทั้งการลักลอบตัดไม้และไฟป่า พวกเขาคิดว่านอกจากเจ้าหน้าที่รักษาป่าแล้วคนทั่วไปก็น่าจะมีส่วนร่วม
โดยมีนักท่องเที่ยวเป็นจุดเน้นเพราะบุคคลกลุ่มนี้มีโอกาสพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้เช่นกัน
จึงคิดให้นักท่องเที่ยวโหลดแอพพลิเคชั่น A-Eye และสามารถถ่ายภาพและระบุรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งข้อมูลไปยังศูนย์เฝ้าระวัง
ซึ่งการถ่ายภาพจะบอกพิกัดที่เกิดเหตุดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่มอนิเตอร์ข้อมูลจะทราบทันทีว่าเหตุเกิดที่จุดใด”
“สมมติว่านักท่องเที่ยวเจอไฟป่า หรืออุบัติเหตุอื่น
ก็สามารถถ่ายรูปแล้วส่งไปยังศูนย์ควบคุมซึ่งมีเจ้าหน้าที่อุทยาน
มอนิเตอร์ข้อมูลผ่านเว็บแอพพลิเคชั่น ถ้าหากตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าเป็นความจริง
จะมอบหมายงานนั้นๆให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปดำเนินการแก้ไข
แต่หากเป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เช่น ไฟป่า
ที่มีความอันตรายต่อทุกชีวิตในบริเวณกว้าง
ในฟังกัชั่นแผนที่ของแอพพลิเคชั่นจะแจ้งพิกัดขอบเขตพื้นที่อันตรายเป็นวงกลมสีแดง
เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นนี้บนมือถือสามารถเดินทางออกจากพื้นที่อันตรายไปยังพื้นที่สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย
แต่ในเหตุการณ์ปกตินักท่องเที่ยวที่พบเห็นพันธุ์ไม้หรือสัตว์ป่าหายากที่น่าสนใจ
ก็สามารถถ่ายรูปแล้วแชร์ขึ้นบนแอพพลิเคชั่นให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสามารถเดินทางมาดูได้เช่นกัน
ซึ่งเป็นการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์คของนักเดินป่าได้อีกด้วย
นางสาวชณิดา ดีโรจนเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า
นอกจากการเป็นแอพพลิเคชั่นช่วยเหลือสังคมแล้วผู้ใช้ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในแง่ของการส่งเสริมการท่องเที่ยว
โดยมีส่วนเพิ่มเติม (features) ที่เป็นการจำลองแผนที่เสมือนจริงทำหน้าที่แทนไกด์แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวภายในอุทยาน
บอกเส้นทางการเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
โดยแสดงรูปภาพตัวอย่างของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น แผนที่และรายละเอียดประวัติความเป็นมา
รวมถึงข้อมูลสำคัญของสถานที่นั้นๆ
โดยอุทยานไม่ต้องเสียงบประมาณในการจัดพิมพ์แผ่นพับ
แก้ไขปัญหาแผ่นพับไม่เพียงพอโดยเฉพาะในช่วงฤดูการท่องเที่ยว
และเป็นการช่วยอนุรักษ์ป่าไม้จากการถูกทำลายจากการผลิตแผ่นพับได้อีกด้วย นอกจากนี้
แอพพลิเคชั่นนี้ยังช่วยแบ่งเบาภาระงานของเจ้าหน้าที่ในด้านการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยการนำเสนอคำแนะนำทั้งภาพและเสียงเป็นภาษาสากล
โดยเพิ่มรายละเอียดข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบถ้วนมากกว่าแผ่นพับ
อีกทั้งยังดึงดูดผู้ใช้ด้วยการนำโซเชียลเน็ตเวิร์กมาผสมผสาน
โดยสามารถถ่ายรูปแล้วแชร์ได้อีกด้วย
รศ.ธีรณี อจลากุล รองคณบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ.
ที่ปรึกษาโครงการกล่าวเพิ่มเติมว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและคณะวิศวกรรมศาสตร์ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการรู้นอกห้องเรียน
เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จากสถานที่จริง
มุ่งสู่ความโกอินเตอร์ไปพร้อมกับการมีจิตสาธารณะต่อส่วนรวม ใช้ความรู้ความสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างสร้างสรรค์ช่วยเหลือสังคม
และประสานงานได้ดีกับอุตสาหกรรมให้ความช่วยเหลือทั้งในแง่เทคนิคและคำปรึกษา
“โดยเฉพาะนักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์โอกาสที่เข้าจะออกไปทำงานอย่างนี้น้อยมาก
นี่เป็นครั้งแรกของนักศึกษา 4 คนนี้ ที่เขาต้องลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลในป่า
เพราะการทำแอพพลิเคชั่นนี้จะต้องสำรวจพื้นที่จริง
โดยต้องเก็บพิกัดสถานที่ท่องเที่ยว
ต้องออกแบบแผนที่ให้น่าดึงดูดต่อการใช้งานด้วยตนเอง ต้องเขียนบท ต้องอัดเสียง
ซึ่งมากเกินกว่านักพัฒนาระบบอย่างพวกเขาจะต้องทำ แต่เราต้องการให้เขาเข้าใจและเรียนรู้ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้แม้ว่าเขาจะไม่ถนัดก็ตาม”
รศ.ดร.ธีรณี กล่าวและเพิ่มเติมว่า
แม้ว่าปัจจุบันแอพพลิเคชั่นนี้จะมีการวางพิกัดและมีพื้นที่ดำเนินงานเฉพาะอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย
จังหวัดเชียงใหม่ แต่แอพพลิเคชั่นดังกล่าวถูกออกแบบให้สามารถเปลี่ยนข้อมูลอุทยาน(Content)
โดยจะมีส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลเพื่อรองรับข้อมูลของอุทยานอื่นๆ
เพื่อให้อุทยานที่มีความสนใจสามารถจัดทำข้อมูลและอัพโหลดข้อมูลของอุทยานของตนมาใช้งานบนแอพพลิเคชั่น
A-Eye ได้
อ้างอิงจาก สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส Thai PBS.นศ.ไทยเจ๋ง
คิดโปรแกรม A-Eye แอพพลิเคชั่นสำหรับอุทยานแห่งชาติบนมือถือ [อินเทอร์เน็ต].2556[เข้าถึงเมื่อ 14 ก.ค. 2556]เข้าถึงได้จาก http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%8B%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-eye-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD
ข้อคิดเห็น·
เป็นเรื่องที่ดีมาก และเป็นแรงบันดาลใจอยากลองทำบ้างค่ะ
ตอบลบเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องการจัดการป่าไม้หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้ใส่ใจธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย
ตอบลบการนำสิ่งต่างมาเผยแพร่ในรูปแบบแอพลิเคชั่นบนมือถือทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
ตอบลบ