วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นศ.ไทยเจ๋ง คิดโปรแกรม A-Eye แอพพลิเคชั่นสำหรับอุทยานแห่งชาติบนมือถือ

นศ.ไทยเจ๋ง คิดโปรแกรม A-Eye แอพพลิเคชั่นสำหรับอุทยานแห่งชาติบนมือถือ

                  A-Eye แอพพลิเคชั่นเจ๋งบนมือถือสมาร์ทโฟนฝีมือเด็ก มจธ. ทำหน้าที่เสมือนรุกขเทวดา เปิดโซเชียลเน็ตเวิร์กให้นักท่องเที่ยว แค่ถ่ายและกดแชร์ภาพเหตุร้ายในป่า ทั้งการตัดไม้ ไฟป่า น้ำป่า ก่อนเจ้าหน้าที่อุทยานแจ้งเหตุฉุกเฉินเตือนนักท่องเที่ยว ลดการสูญเสีย ช่วยสอดส่องธรรมชาติ ลดปริมาณโบว์ชัวร์เพราะทำหน้าที่เสมือนไกด์นำเที่ยวเส้นทางธรรมชาติได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ

         แอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ว่านี้เป็นผลงานของ ภัทรวุฒิ เรืองกนกมาศ ชณิดา ดีโรจนเดช จิตนันท์ มีนไชยอนันต์ และ ศุภัชญา พวงพรทิพ 4 นักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มจธ.ที่เพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย 2013 (NSC 2013) ในมหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 ประเภท Environment App Contest มาหมาดๆ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 
          ผลงานชิ้นนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า A-Eye (Extra eyes assisting in the environmental surveillance of the national parks) เป็นระบบอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติรวมทั้งเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยระบบถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของพื้นที่ป่าไม้อันมีสาเหตุมาจากการทำลายพื้นที่ป่าไม้ที่เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรธรรมชาติ และจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอในการสอดส่องดูแลเหตุการณ์ผิดปกติต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม เช่น การเกิดไฟป่า การลักลอบตัดไม้ทำลายสัตว์ป่า A-Eye เป็นแอพพลิเคชั่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าไม้ระหว่างการท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติ ผ่านการใช้งานแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน
          ภัทรวุฒิ เรืองกนกมาศ นักศึกษาวิศวคอมพิวเตอร์ ชั้นปี 4 มจธ.หนึ่งในทีมผู้คิดค้น กล่าวว่า เหตุผลที่พวกเขาพัฒนาระบบดังกล่าวบนมือถือสมาร์ทโฟน เนื่องจาก มีคนจำนวนมากนิยมใช้อีกทั้งยังสะดวกต่อการพกพา หลังจากที่พวกเขาคิดที่จะตอบโจทย์ของสังคมเรื่องป่าไม้ ต่อมาก็คิดวิธีการช่วยในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่างๆอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ป่าไม้ลดลง ทั้งการลักลอบตัดไม้และไฟป่า พวกเขาคิดว่านอกจากเจ้าหน้าที่รักษาป่าแล้วคนทั่วไปก็น่าจะมีส่วนร่วม โดยมีนักท่องเที่ยวเป็นจุดเน้นเพราะบุคคลกลุ่มนี้มีโอกาสพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้เช่นกัน จึงคิดให้นักท่องเที่ยวโหลดแอพพลิเคชั่น A-Eye และสามารถถ่ายภาพและระบุรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งข้อมูลไปยังศูนย์เฝ้าระวัง ซึ่งการถ่ายภาพจะบอกพิกัดที่เกิดเหตุดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่มอนิเตอร์ข้อมูลจะทราบทันทีว่าเหตุเกิดที่จุดใด
          “สมมติว่านักท่องเที่ยวเจอไฟป่า หรืออุบัติเหตุอื่น ก็สามารถถ่ายรูปแล้วส่งไปยังศูนย์ควบคุมซึ่งมีเจ้าหน้าที่อุทยาน มอนิเตอร์ข้อมูลผ่านเว็บแอพพลิเคชั่น ถ้าหากตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าเป็นความจริง จะมอบหมายงานนั้นๆให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปดำเนินการแก้ไข แต่หากเป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เช่น ไฟป่า ที่มีความอันตรายต่อทุกชีวิตในบริเวณกว้าง ในฟังกัชั่นแผนที่ของแอพพลิเคชั่นจะแจ้งพิกัดขอบเขตพื้นที่อันตรายเป็นวงกลมสีแดง เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นนี้บนมือถือสามารถเดินทางออกจากพื้นที่อันตรายไปยังพื้นที่สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย แต่ในเหตุการณ์ปกตินักท่องเที่ยวที่พบเห็นพันธุ์ไม้หรือสัตว์ป่าหายากที่น่าสนใจ ก็สามารถถ่ายรูปแล้วแชร์ขึ้นบนแอพพลิเคชั่นให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสามารถเดินทางมาดูได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์คของนักเดินป่าได้อีกด้วย
          นางสาวชณิดา ดีโรจนเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเป็นแอพพลิเคชั่นช่วยเหลือสังคมแล้วผู้ใช้ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในแง่ของการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีส่วนเพิ่มเติม (features) ที่เป็นการจำลองแผนที่เสมือนจริงทำหน้าที่แทนไกด์แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวภายในอุทยาน บอกเส้นทางการเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยแสดงรูปภาพตัวอย่างของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น แผนที่และรายละเอียดประวัติความเป็นมา รวมถึงข้อมูลสำคัญของสถานที่นั้นๆ โดยอุทยานไม่ต้องเสียงบประมาณในการจัดพิมพ์แผ่นพับ แก้ไขปัญหาแผ่นพับไม่เพียงพอโดยเฉพาะในช่วงฤดูการท่องเที่ยว และเป็นการช่วยอนุรักษ์ป่าไม้จากการถูกทำลายจากการผลิตแผ่นพับได้อีกด้วย นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นนี้ยังช่วยแบ่งเบาภาระงานของเจ้าหน้าที่ในด้านการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยการนำเสนอคำแนะนำทั้งภาพและเสียงเป็นภาษาสากล โดยเพิ่มรายละเอียดข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบถ้วนมากกว่าแผ่นพับ อีกทั้งยังดึงดูดผู้ใช้ด้วยการนำโซเชียลเน็ตเวิร์กมาผสมผสาน โดยสามารถถ่ายรูปแล้วแชร์ได้อีกด้วย
          รศ.ธีรณี อจลากุล รองคณบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. ที่ปรึกษาโครงการกล่าวเพิ่มเติมว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและคณะวิศวกรรมศาสตร์ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการรู้นอกห้องเรียน เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จากสถานที่จริง มุ่งสู่ความโกอินเตอร์ไปพร้อมกับการมีจิตสาธารณะต่อส่วนรวม ใช้ความรู้ความสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างสร้างสรรค์ช่วยเหลือสังคม และประสานงานได้ดีกับอุตสาหกรรมให้ความช่วยเหลือทั้งในแง่เทคนิคและคำปรึกษา 
          “โดยเฉพาะนักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์โอกาสที่เข้าจะออกไปทำงานอย่างนี้น้อยมาก นี่เป็นครั้งแรกของนักศึกษา 4 คนนี้ ที่เขาต้องลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลในป่า เพราะการทำแอพพลิเคชั่นนี้จะต้องสำรวจพื้นที่จริง โดยต้องเก็บพิกัดสถานที่ท่องเที่ยว ต้องออกแบบแผนที่ให้น่าดึงดูดต่อการใช้งานด้วยตนเอง ต้องเขียนบท ต้องอัดเสียง ซึ่งมากเกินกว่านักพัฒนาระบบอย่างพวกเขาจะต้องทำ แต่เราต้องการให้เขาเข้าใจและเรียนรู้ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้แม้ว่าเขาจะไม่ถนัดก็ตามรศ.ดร.ธีรณี กล่าวและเพิ่มเติมว่า แม้ว่าปัจจุบันแอพพลิเคชั่นนี้จะมีการวางพิกัดและมีพื้นที่ดำเนินงานเฉพาะอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย จังหวัดเชียงใหม่ แต่แอพพลิเคชั่นดังกล่าวถูกออกแบบให้สามารถเปลี่ยนข้อมูลอุทยาน(Content) โดยจะมีส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลเพื่อรองรับข้อมูลของอุทยานอื่นๆ เพื่อให้อุทยานที่มีความสนใจสามารถจัดทำข้อมูลและอัพโหลดข้อมูลของอุทยานของตนมาใช้งานบนแอพพลิเคชั่น A-Eye ได้ 

อ้างอิงจาก สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส Thai PBS.นศ.ไทยเจ๋ง คิดโปรแกรม A-Eye แอพพลิเคชั่นสำหรับอุทยานแห่งชาติบนมือถือ [อินเทอร์เน็ต].2556[เข้าถึงเมื่อ 14 ก.ค. 2556]เข้าถึงได้จาก http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%8B%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-eye-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD

ข้อคิดเห็น·                     

Environmental Object  คือ  การดูแลรักษาป่าไม้·                   

Environmental Data  คือ ภาพถ่าย แผนที่เสมือนจริง ·                   

Metadata คือ  แอพพลิเคชั่น  อรไพลิน พรหมพันธกรณ์ (บีม)


3 ความคิดเห็น:

  1. เป็นเรื่องที่ดีมาก และเป็นแรงบันดาลใจอยากลองทำบ้างค่ะ

    ตอบลบ
  2. เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องการจัดการป่าไม้หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้ใส่ใจธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย

    ตอบลบ
  3. การนำสิ่งต่างมาเผยแพร่ในรูปแบบแอพลิเคชั่นบนมือถือทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

    ตอบลบ