ดร.ไกรสร อัญชลีวรพันธุ์
ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สวทช.
ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สวทช.
เทคโนโลยี
RFID
RFID ย่อมาจากคำว่า Radio
Frequency Identification เป็นเทคโนโลยีไร้สายที่ใช้ระบุลักษณะเฉพาะของคน
สัตว์ และสิ่งของ ด้วยการติดแผ่นป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (Tags) ที่มีการลงโปรแกรมควบคุมที่ระบุอย่างเฉพาะเจาะจง
โดยติดไปกับสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ และระบุถึงข้อมูลของสิ่งนั้นๆ
ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นการนำเอาคลื่นวิทยุมาเป็นคลื่นพาหะเพื่อใช้ในการสื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์
2 ตัวที่เรียกว่า แผ่นป้าย (Tag) และตัวอ่านข้อมูล
(Reader หรือ Interrogator)
ข้อดีของเทคโนโลยี RFID
- สามารถอ่านข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อาร์เอฟไอดี Tagสามารถที่จะบันทึกข้อมูลได้มากถึง
100,000 ครั้ง มีระยะการอ่านที่ไกล เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีคลื่นความถี่
UHF จะสามารถอ่าน Tag ได้ไกลถึง 4-5เมตร หากพูดถึงอาร์เอฟไอดีแบบ Active ระยะการอ่านก็จะไกลยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งในบางกรณีสามารถอ่านได้ไกลถึง 30 เมตร มีความคงทนมากกว่า อาร์เอฟไอดี Tag สามารถทำงานได้ในสภาพที่เปียกชื้น
หรือการทำงานที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ
การใช้เทคโนโลยี RFID กับธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
ปัจจุบันธุรกิจขนส่ง(Logistic)
ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ประกอบการ เนื่องจากในภาคอุตสาหกรรมใดๆ
ก็ตามต่างก็ต้องมีการพึ่งพากระบวนการขนส่งเพื่อให้มีการกระจายสินค้า (Distribution)
ไปยัง Supplier หรือ ลูกค้า
ดังนั้นทางเลือกหนึ่งของอุตสาหกรรมเหล่านั้นจึงทำให้เกิดเป็นธุรกิจขนส่ง (Logistic)
เพื่อให้บริการในการกระจายสินค้าออกไปยังส่วนต่างๆ ทั้งนี้ หัวใจหลักของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการโลจิสติกส์นั้นก็คือความสามารถในเชื่อมต่อข้อมูลจากจุดเริ่มต้นการผลิตสู่จุดของการขนส่งหรือการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้วิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์ต่อไป
สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากการประยุกต์ใช้ RFID ในระบบลอจิสติกส์ได้ส่งผลต่อการประหยัดพลังงาน
และค่าใช้จ่าย กล่าวคือ
1. ทำให้เกิดบริหารและจัดการยานพาหนะแบบ real time คือ
- วางแผนใช้งานรถได้อย่างถูกต้องตามทิศทางความเป็นจริง
- พนักงานไม่สามารถขับออกนอกเส้นทางได้
- วางแผนควบคุมเวลาเดินทาง
- พนักงานไม่สามารถจอดหรือหยุดรถโดยไม่จำเป็น
- พนักงานต้องวิ่งรถตามความเร็วที่กำหนด
- กำหนดเวลา ณ.จุดเป้าหมายให้พนักงานได้
- บอกเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดในการใช้รถ
- วางแผนการเดินทางให้สอดคล้อง
และสัมพันธ์กับปริมาณงาน
- วางแผนการจัดส่งสินค้า ตามทิศทาง ระยะทาง
และจำนวนของงาน
- วางแผนการใช้รถในการเดินทางในกรณีที่มีผู้จองใช้รถหลายราย
- วางแผนการเดินทางในการเข้าพบ
ในกรณีที่ต้องการติดต่อธุรกิจหลายราย
2. สามารถลดต้นทุนค่าน้ำมันรถและค่าซ่อมแซมและการบริหารจัดการบุคคลากร
- พนักงานไม่สามารถขับรถเร็วกว่าที่กำหนด
- พนักงานไม่สามารถนำรถไปใช้ส่วนตัว
- ลดปัญหาของพนักงานที่ start รถแล้วเปิดแอร์นอน
- รถถูกใช้งานตามระยะทางและสภาพความเป็นจริง
- รถถูกจำกัดความเร็วตามข้อกำหนด
3. ทำให้ป้องกันอุบัติเหตุและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
- ได้ข้อมูลของสถานที่ตั้งของสำนักงานหรือสถานที่ต่างๆ
- บอกเส้นทางให้กับพนักงานใหม่
หรือพนักงานที่ยังไม่รู้จักเส้นทาง
4. สามารถนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลหลักเพื่อนำไปใช้ในองค์กรในระยะยาว
- สร้างเป็นฐานข้อมูลในการวางแผนการบริหารและจัดการยานพาหนะ
- แผนการซ่อมบำรุงยานพาหนะ
- การบริหารงานบุคคลเช่นพฤติกรรมในการขับรถ
- แผนการขายการตลาดและการจัดส่ง
อ้างอิงจาก ดร.ไกรสร อัญชลีวรพันธุ์.RFID เทคโนโลยีใหม่เพื่อการลดการใช้พลังงาน[อินเทอร์เน็ต].2556[เข้าถึงเมื่อ 9 ก.ค. 2556]เข้าถึงได้จาก http://202.44.52.249/thaienergynews/BlogDetail.aspx?id=12
ข้อคิดเห็น
- Environmental Object คือ การลดการใช้พลังงาน
- Environmental Data คือ ข้อมูลจากป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (Tags) ที่ติดไปกับสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ
- Metadata คือ ข้อมูลที่บันทึกได้
อรไพลิน พรหมพันธกรณ์ (บีม)
สามารถรับข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และข้อมูลที่ได้ก็เป็นข้อมูลสดใหม่ที่อัพเดทตลอด เหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ช่วยให้ประหยัดพลังงานและเวลาในการเก็บข้อมูลอีกด้วย
ตอบลบเป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจโลจิสติกอย่างลงตัว และยังมีส่วนช่วยลดการใช้พลังงาน เพื่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
ตอบลบ