วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

RFID เทคโนโลยีใหม่เพื่อการลดการใช้พลังงาน


                                                     ดร.ไกรสร อัญชลีวรพันธุ์
     ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สวทช.

เทคโนโลยี RFID
        RFID ย่อมาจากคำว่า Radio Frequency Identification เป็นเทคโนโลยีไร้สายที่ใช้ระบุลักษณะเฉพาะของคน สัตว์ และสิ่งของ ด้วยการติดแผ่นป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (Tags) ที่มีการลงโปรแกรมควบคุมที่ระบุอย่างเฉพาะเจาะจง โดยติดไปกับสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ และระบุถึงข้อมูลของสิ่งนั้นๆ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นการนำเอาคลื่นวิทยุมาเป็นคลื่นพาหะเพื่อใช้ในการสื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ 2 ตัวที่เรียกว่า แผ่นป้าย (Tag) และตัวอ่านข้อมูล (Reader หรือ Interrogator)
ข้อดีของเทคโนโลยี  RFID 
 -             สามารถอ่านข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ  อาร์เอฟไอดี Tagสามารถที่จะบันทึกข้อมูลได้มากถึง 100,000  ครั้ง มีระยะการอ่านที่ไกล  เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีคลื่นความถี่  UHF  จะสามารถอ่าน Tag  ได้ไกลถึง  4-5เมตร  หากพูดถึงอาร์เอฟไอดีแบบ  Active ระยะการอ่านก็จะไกลยิ่งขึ้นไปอีก  ซึ่งในบางกรณีสามารถอ่านได้ไกลถึง  30  เมตร มีความคงทนมากกว่า อาร์เอฟไอดี Tag  สามารถทำงานได้ในสภาพที่เปียกชื้น หรือการทำงานที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ  
การใช้เทคโนโลยี RFID กับธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
       ปัจจุบันธุรกิจขนส่ง(Logistic) ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ประกอบการ เนื่องจากในภาคอุตสาหกรรมใดๆ ก็ตามต่างก็ต้องมีการพึ่งพากระบวนการขนส่งเพื่อให้มีการกระจายสินค้า (Distribution) ไปยัง Supplier หรือ ลูกค้า ดังนั้นทางเลือกหนึ่งของอุตสาหกรรมเหล่านั้นจึงทำให้เกิดเป็นธุรกิจขนส่ง (Logistic) เพื่อให้บริการในการกระจายสินค้าออกไปยังส่วนต่างๆ ทั้งนี้ หัวใจหลักของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการโลจิสติกส์นั้นก็คือความสามารถในเชื่อมต่อข้อมูลจากจุดเริ่มต้นการผลิตสู่จุดของการขนส่งหรือการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้วิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์ต่อไป
สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากการประยุกต์ใช้ RFID ในระบบลอจิสติกส์ได้ส่งผลต่อการประหยัดพลังงาน และค่าใช้จ่าย กล่าวคือ
1. ทำให้เกิดบริหารและจัดการยานพาหนะแบบ real time คือ 
วางแผนใช้งานรถได้อย่างถูกต้องตามทิศทางความเป็นจริง
พนักงานไม่สามารถขับออกนอกเส้นทางได้
วางแผนควบคุมเวลาเดินทาง
- พนักงานไม่สามารถจอดหรือหยุดรถโดยไม่จำเป็น
พนักงานต้องวิ่งรถตามความเร็วที่กำหนด
กำหนดเวลา ณ.จุดเป้าหมายให้พนักงานได้
บอกเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดในการใช้รถ
วางแผนการเดินทางให้สอดคล้อง และสัมพันธ์กับปริมาณงาน
วางแผนการจัดส่งสินค้า ตามทิศทาง ระยะทาง และจำนวนของงาน
วางแผนการใช้รถในการเดินทางในกรณีที่มีผู้จองใช้รถหลายราย
วางแผนการเดินทางในการเข้าพบ ในกรณีที่ต้องการติดต่อธุรกิจหลายราย
2. สามารถลดต้นทุนค่าน้ำมันรถและค่าซ่อมแซมและการบริหารจัดการบุคคลากร
พนักงานไม่สามารถขับรถเร็วกว่าที่กำหนด
พนักงานไม่สามารถนำรถไปใช้ส่วนตัว
ลดปัญหาของพนักงานที่ start รถแล้วเปิดแอร์นอน
รถถูกใช้งานตามระยะทางและสภาพความเป็นจริง
รถถูกจำกัดความเร็วตามข้อกำหนด
3. ทำให้ป้องกันอุบัติเหตุและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
ได้ข้อมูลของสถานที่ตั้งของสำนักงานหรือสถานที่ต่างๆ
บอกเส้นทางให้กับพนักงานใหม่ หรือพนักงานที่ยังไม่รู้จักเส้นทาง
4. สามารถนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลหลักเพื่อนำไปใช้ในองค์กรในระยะยาว
สร้างเป็นฐานข้อมูลในการวางแผนการบริหารและจัดการยานพาหนะ
แผนการซ่อมบำรุงยานพาหนะ
การบริหารงานบุคคลเช่นพฤติกรรมในการขับรถ
แผนการขายการตลาดและการจัดส่ง

อ้างอิงจาก ดร.ไกรสร อัญชลีวรพันธุ์.RFID เทคโนโลยีใหม่เพื่อการลดการใช้พลังงาน[อินเทอร์เน็ต].2556[เข้าถึงเมื่อ 9 ก.ค2556]เข้าถึงได้จาก http://202.44.52.249/thaienergynews/BlogDetail.aspx?id=12
ข้อคิดเห็น
  • Environmental Object  คือ  การลดการใช้พลังงาน
  •  Environmental Data  คือ ข้อมูลจากป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (Tags) ที่ติดไปกับสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ 
  • Metadata คือ  ข้อมูลที่บันทึกได้
  อรไพลิน พรหมพันธกรณ์ (บีม)


2 ความคิดเห็น:

  1. สามารถรับข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และข้อมูลที่ได้ก็เป็นข้อมูลสดใหม่ที่อัพเดทตลอด เหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ช่วยให้ประหยัดพลังงานและเวลาในการเก็บข้อมูลอีกด้วย

    ตอบลบ
  2. เป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจโลจิสติกอย่างลงตัว และยังมีส่วนช่วยลดการใช้พลังงาน เพื่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

    ตอบลบ