ต่อไปถ้าแบตมือถือหมดก็ไม่ต้องพกสายชาร์จหรือแบตสำรองให้ยุ่งยาก แค่เดินเข้ามินิมาร์ทซื้อโค้กมาเติมก็ใช้ได้แล้ว
นี่คือแนวความคิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสุดๆในวิทยานิพนธ์ของ Daizi Zheng ซึ่งเค้าออกแบบมือถือโนเกียที่ใช้พลังงานจากน้ำตาลในน้ำอัดลมได้
มือถือโนเกียเครื่องนี้มีหลอดด้านหลังที่บรรจุแผงเคมีที่จะทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ของน้ำตาลและคาร์บอเนตให้เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมันทำงานได้กับน้ำอัดลมเกือบทุกยี่ห้อ ยิ่งยี่ห้อไหนมีน้ำตาลเยอะก็จะให้พลังงานที่ยาวนานขึ้น เมื่อน้ำตาลและคาร์บอเนตถูกใช้หมดมันก็จะเหลือแค่ของเหลวที่ย่อยสลายตามธรรมชาติได้ แค่เททิ้ง ทำความสะอาดแล้วเติมน้ำอัดลมเข้าไปใหม่เท่านี้ก็ใช้งานได้อีกครั้งแล้ว ถ้าหากคุณเป็นคนรักโลกสุดๆไม่อยากใช้น้ำอัดลมกระป๋องเพราะจะเหลือขวดและกระป๋องให้เป็นขยะ ก็สามารถเติมน้ำเชื่อมกับโซดาที่ผสมเองลงไปก็ได้นะ
เทียบการใช้งานหนึ่งครั้งการใช้โค้กเป็นแบตเตอรี่จะให้อายุการใช้งานที่นานกว่าแบตลิเธียม 3-4 เท่า (แต่ต้องเป็นมือถือที่มีหน้าจอกับปุ่มกดเท่านั้นนะ ยังไม่รองรับการทำงานกับสมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัสที่กินไฟเยอะกว่า)
ที่มา: http://www.dailygizmo.tv
อ้างอิง
นานาสาระ.[ออนไลน์].สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2556.เข้าถึงได้จาก http://unigang.com/Article/12620
- Environmental Object คือ การประหยัดพลังงานไฟฟ้าในการชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ
- Environmental Data คือ ปริมาณของน้ำตาลที่เติม
- Metadata -
ธนาภา นิลวิเชียร (แฟม) 5415021
เป็นเทคโนโลยีที่ดีมากๆ แต่ยังมีข้อจำกัดอื่นๆอยู่ และอาจจะต้องคำนึงถึงผลกระทบอื่นๆ เช่นด้านเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำตาลในท้องตลาดด้วย เป็นตัน
ตอบลบเป็นแนวความคิดที่ดีมาก เพราะ ช่วยลดพลังงานในโลกได้ แต่ควรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถใช้ได้ครอบคลุมในโทรศัพท์หลายประเภท ทั้งนี้ทางบริษัทต้องอย่าลืมข้อจำกัดที่ว่า หากมีน้ำตาล มดก็อาจจะขึ้นได้ มันอาจเป็นปัญหาสำหรับใครหลายคน (^;^)
ตอบลบเป็นการคิดค้นที่ยังเป็นแรกเริ่ม ยังอยู่ในช่วงการทดลองใช้ และต้องการการพัฒนาปรับปรุบข้อจำกัด ข้อเสียอีก จนกว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ทั่วไป
ตอบลบ