หมู่บ้านในประเทศนอร์เวย์ ที่ต้องใช้เรือเฟอร์รี่ในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน มีแผนเปลี่ยนมาใช้เรือเฟอร์รี่รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้เรือแบบเดิม ๆ ที่ต้องใช้พลังงานจากน้ำมันดีเซล ซึ่งในแต่ละปีต้องใช้น้ำมันดีเซลสูงถึง 1,000,000 ลิตร และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนและก๊าซไนโตรเจนออกสู่ชั้นบรรยากาศจำนวนมาก
เรือเฟอร์รี่พลังงานไฟฟ้าที่จะนำมาใช้นี้ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ในเวลาเพียงแค่ 10 นาที และสามารถบรรทุกรถได้ 360 คัน ผู้โดยสารอีกกว่า 360 คน โดยที่เรือจะสร้างพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 11 ตัน จำนวน 2 ตัว ซึ่งมอเตอร์ทั้งสองสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 800 กิโลวัตต์ แม้ในขณะที่เรือวิ่งด้วยความเร็ว 10 นอต จะใช้พลังงานไฟฟ้าแค่ 400 กิโลวัตต์ก็ตาม
ในทางตรงกันข้าม เรือเฟอร์รี่ที่ใช้น้ำมันดีเซลจะใช้พลังงานในการเดินเรือถึง 1,500 กิโลวัตต์ ซึ่งเรือเฟอร์รี่พลังงานไฟฟ้าถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเพียงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเรือธรรมดา และด้วยน้ำหนักที่น้อยลงนี้ยังช่วยลดการใช้อลูมิเนียมในการก่อสร้างเรือด้วย
ที่มา http://www.energysavingmedia.com/news/page.php?a=10&n=15&cno=4036
Environmental Object : ปริมาณก๊าซคาร์บอนและก๊าซไนโตรเจนที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ
Environmental Data : มีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นแบบใช้ไฟฟ้าแทน
Metadata : จาการที่เปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมัน เพื่อขับเคลื่อนเรือเฟอร์รี่ในการคมนาคม ทำให้ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนและก๊าซไนโตรเจนที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศลงได้
กาญจนา บุญวิบูลวัฒน์ ส้มโอ
เป็นเทคโนโลยีที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงงานไฟฟ้ามาเป็นพลังงานทดแทนทำให้ช่วยลดปริาณก๊าชคาร์บอนและยังช่วยประหยัดงบประมาณของน้ำมันกำลังลดน้อยลงอีกด้วย
ตอบลบพลังงานทางเลือกเป็นสิ่งที่จะทำให้ธรรมชาติดีขึ้น
ตอบลบเป็นการใช้พลังงานสะอาดและเป็นทางเลือกที่ดีในอนาคต
ตอบลบ